□5.3.ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์รวมในรูปแบบ"น้ำ" (เข้มข้นสูง)


ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์
ในรูปแบบ "น้ำ"
Organic Fermented Water 


ผลิตภัณฑ์มีให้เลือกใช้  2  ชนิด ให้เลือกใช้ ตามความเหมาะสมกับชนิดของพืช
ที่ปลูกและช่วงเวลาในการเติบโตของพืช คือ  แบบปุ๋ย 
"อินทรีย์ล้วน" กับ ปุ๋ย"อินทรีย์ผสมปุ๋ยเคมี" 
(ทุกสูตรในรูปแบบน้ำยังไม่พร้อมจำหน่าย)


1.ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์รวมรูปแบบน้ำชนิด"อินทรีย์ล้วน"
มีสุตรให้เลือกใช้อยู่ 4 สูตร
 (เลือกใช้สูตรในแต่ละช่วงของการเจริญเต็บโตของพืช)
ไปดูรายละเอียดหรือสั่งซื้อ


2 ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์รวมรูปแบบน้ำชนิด "อินทรีย์เคมี"
มีสุตรให้เลือกใช้อยู่ 4 สูตร
(เลือกใช้สูตรในแต่ละช่วงของการเจริญเต็บโตของพืช)
ไปดูรายละเอียดหรือสั่งซื้อ

        ไปพูดคุยกับเราที่ app Line


มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องการใช้ปุ๋ย คลิกไปที่หมวดถาม-ตอบด้านล่าง

              >>>>>คลิกที่นี่<<<<<

                        ••••••••••••••

                 ข้อมูลผลิตภัณฑ์


โปรดอ่านข้อมูลของผลิตภัณฑ์ด้านล่างให้ครบถ้วนเพื่อทำความเข้าใจและนำไปใข้อย่างถูกต้อง

เป็นผลงานการวิจัยของ Amber grape farm จดลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฏหมาย
                  
                 >>>>>><<<<<<

การปลูกองุ่นในที่จำกัดจำเป็นจะต้องมี" ระบบอินทรีย์"ให้ใกล้เคียงกับการปลูกในดินที่เป็นธรรมชาติทั่วไป
ในธรรมชาติจะมีระบบอินทรีย์ควบคุมความเป็นไปของพื้นดินซึ่งเป็นที่อยู่ของต้นไม้ทุกชนิด 
จะเห็นว่าต้นไม้ในธรรมชาตินนี้เจริญเติบโตได้ด้วยตนเอง เพราะอะไร?

คำตอบก็คือ ในธรรมชาติมี"ระบบอินทรีย์"ควบคุมอยู่

      ฉะนั้น การปลูกในที่จำกัด(ในภาชนะขนาดเล็ก)จึงจำเป็นจะต้องทำสภาพวัสดุปลูกให้มีสภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติให้มากที่สุด ต้นไม้จึงจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน


Amber grape farm จึงทำการวิจัยเพื่อค้นหากรรมวิธีที่จะทำให้มีทุกอย่างที่ต้นไม้ต้องการในการเจริญเติบโตอยู่ในวัสดุปลูกได้อย่างลงตัวเหมาะสม,ยาวนาน 

        จากการคิดค้นทดลองและพัฒนารูปแบบของปุ๋ยที่มาจากวัสดุอินทรีย์หลากหลายชนิดที่มีองค์ประกอบของธาตุอาหารที่แตกต่างกันมาผสมรวมอยู่ด้วยกัน ในสภาพที่ไม่เป็นปฏิปักต่อกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม,ลงตัว และสะดวกในการนำมาใช้

                   ••••••••••••••

ปุ๋ยอินทรีย์ตัวนี้
"มันก็คือ"ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ"ที่นำเอาปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพหลายๆอย่างมารวมอยู่ด้วยกันในสภาพที่ คงที่ เพื่อให้มีสารอาหารและทุกๆอย่างที่พืชต้องการรวมถึงจุลินทรีย์,สารชีวภัณฑ์ป้องกันโรคพืช อย่างครบถ้วนอยู่ในตัวนี้ตัวเดียว   แล้วพัฒนาให้มาอยู่ในรูปของ"ผงแห้ง"เพื่อให้ง่ายในการใช้,ในการขนส่ง,ง่ายในการเก็บรักษา,ประหย้ดทั้งเวลาทั้งค่าใช้จ่าย
.......
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้ผ่านการทดลองและวิจัยมาอย่างดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจากการใช้ปุ๋ยพืชประเภท "อินทรีย์"
เช่น กลิ่นเหม็น,มีธาตุอาหารน้อยต้องใช้บ่อย,จัดเตรียมได้ยากและใช้เวลานาน,มีค่าขนส่งสูง,เก็บรักษาได้ยากเป็นต้น

ปุ๋ยตัวนี้ จึงผลิตออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งหมดโดยเฉพาะ

▪︎สร้างระบบอินทรีย์=แก้ปัญหาต้นไม้ที่ปลุกในกระถางไม่โต,โตช้า,ปลูกไปนานๆจะแคระแกรน,ดินแข็ง
▪︎รูปแบบ"ผง"=แก้ปัญหากลิ่นเหม็น,ขนส่งง่ายราคาถูก,เก็บรักษาได้นาน
▪︎มีทุกอย่างครบ=แก้ปัญหาการต้องไปซื้อปุ๋ยหลายๆตัวมาใช้ทำให้ยุ่งยากในการใช้และสิ้นเปลือง
▪︎ละลายช้า=แก้ปัญหาการสิ้นเปลืองเพราะว่าปุ๋ยทั่วไปเวลาใส่จะสูญหายไปมากถึง90% ต้นไม้ใช้ได้เพียง 10% 
และแก้ปัญหาความเข้มข้นของปุ๋ย ที่จะทำให้ต้นไม้ได้รับผลกระทบและโตไม่เสม่ำเสมอ

••••••••••

ข้อพิจารณาในการเลือกใช้ชนิด,สูตรของปุ๋ย ขึ้นอยู่กับ
    ความต้องการของผู้ปลูกเองว่าจะเลือกใช้ อินทรีย์,อินทรีย์เคมี,หรือ เคมี ทั้งนี้การเลือกก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆที่ต้องทำมาพิจารณา ซึ่งมีข้อแนะนำจะต้องพิจารณาดังนี้

1.พืชที่ปลูก 

>>ไม้ผล เช่น องุ่น ต้องเลือกใช้ตามสถานที่ปลูก

●ปลูกในที่จำกัด แนะนำให้ใช้ 2 แบบควบคู่กัน เพราะว่าไม้ผลจะใช้ธาตุอาหารจำนวนมากในการเติบโตทุกขั้นตอนโดยเฉพาะช่วงการเติบโตของผล 
แนะนำให้ใช้ "อินทรีย์เคมี เพราะว่าธาตุอาหารที่มีอยู่ในปุ๋ยอินทรีย์มีไม่มากเพียงต่อการเติบโตของไม้ผลจำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีร่วมด้วย  ซึ่งต้องระวังการใช้ปุ๋ยเคมีค่อนข้างหนักเพราะว่าจะไปกระทบต่อ"ระบบอินทรีย์"ในวัสดุปลูกในกระถางทำให้สภาพดินปลูกเสีย
ซึ่งปัญหานี้ ทำให้ระยะยาวต้นไม้ในกระถางจะแคระแกรนไม่โต

เราได้ทดลอง,วิจัย และผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมี ที่มีอัตราส่วนลงตัวเหมาะสมให้กับระบบอินทรีย์ในที่จำกัดออกมาจำหน่ายแล้วคือ หัวเชื้อปุ๋ยน้ำหมัก"อินทรีย์เคมี"(อินทรีย์รวม+เคมีรวม)

●ปลูกลงดินโดยตรง  แนะนำให้ใช้ ปุ๋ยอินทรีย์ทั่วๆไป ร่วมกับ ปุ๋ยเคมี (แต่ต้องมีความรู้และต้องระมัดระวังในการใช้)ถ้าจะเลือกแบบสะดวก,ใช้ง่ายและได้ผลดี (ต้นทุนลุงกว่าปกติ)แนะนำเลือก ใช้ หัวเชื้อปุ๋ยน้ำหมัก"อินทรีย์เคมี"(อินทรีย์รวม+เคมีรวม) ของ Amber 


>>พืชผัก เช่น องุ่น ต้องเลือกใช้ตามสถานที่ปลูก

●ปลูกในที่จำกัด เช่นปลูกในกระถาง,เข่ง,ถุง 

แนะนำให้ใช้ "อินทรีย์เพียวๆเพราะว่าธาตุอาหารที่มีอยู่ในปุ๋ยอินทรีย์มีมากเพียงต่อการเติบโตของพืชผักที่มีอายุสั้น
เราได้ทดลอง,วิจัย และผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมี ที่มีอัตราส่วนลงตัวเหมาะสมให้กับระบบอินทรีย์ในที่จำกัดออกมาจำหน่ายแล้วคือ หัวเชื้อปุ๋ยน้ำหมัก"อินทรีย์รวม"ของ Amber 

●ปลูกลงดินโดยตรง  ถ้าปลูกไม่มากนักหรือไม่ได้ปลูกเพื่อเป็นการค้าแนะนำให้ใช้ "อินทรีย์เพียวๆเพราะว่าธาตุอาหารที่มีอยู่ในปุ๋ยอินทรีย์มีมากเพียงต่อการเติบโตของพืชผักที่มีอายุสั้น
แต่ถ้าปลุกเพื่อการค้าให้ใช้ ปุ๋ยอินทรีย์ทั่วๆไป ร่วมกับ ปุ๋ยเคมี (แต่ต้องมีความรู้และต้องระมัดระวังในการใช้)ถ้าจะเลือกแบบสะดวก,ใช้ง่ายและได้ผลดี (ต้นทุนลุงกว่าปกติ)แนะนำเลือก ใช้ หัวเชื้อปุ๋ยน้ำหมัก"อินทรีย์รวม"ของ Amber 
••••••••••

2.ช่วงอายุการเติบโตของต้นพืช 

โดยเฉพาะไม้ผล การเลือกใช้ปุ๋ยต้องเลือกใช้ให้ตรงตามช่วงของการเจริญเติบโตของพืช
เราสามารถเลือกปุ๋ยหลายชนิดร่วมกันโดยการสลับกันใช้ไปตามช่วงอายุของพืช เช่น ช่วงเติบโตใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมี,แต่ช่วงก่อนการเก็บเกี่ยวหรือช่วงทำความหวานใช้ปุ๋ยปุ๋ยอินทรีย์เพียวๆ เป็นต้น
Amber ได้คิดค้า,วิจัย ปุ๋ยออกมาใช้ แยกตามช่วงอายุของไม้ผลเป็น 4 ช่วงระยะเวลา ท่านไปดูรายละเอียดและเลือกใช้ได้ ตามลิ้งด้านบน

••••••••••••••

ทำไม?จึงหันมาใข้ปุ๋ยตัวนี้ 
(ข้อดี,คุณสมบ้ติที่แตกต่าง  เป็นเหตุว่าทำไมจึงต้องหันมาใช้ปุ๋ยตัวนี้)

1.ไม่ต้องไปชื้อน้ำหมักหรือปุ๋ยตัวอื่นๆมาใส่เพิ่มใช้เพียงตัวนี้ตัวเดียวต้นไม้ก็ได้พร้อมทุกอย่างแล้ว เพราะว่าเรารวมเอาน้ำหมักจากวัสดุอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์ต่างๆรวมมากกว่า50 ชนิดเอาไว้ในตัวในอัตราที่เหมาะสมแล้ว ทำให้มีธาตุอาหารทุกอย่างที่พืชต้องการอยู่อย่างครบถ้วนแล้ว  เช่น น้ำหมัก ปลาทะเล,มูลค้างคาว,มูลใส้เดือน,มูลวัว,เปลือกไข่,เปลือกกุ้นเปลือกปู,เปลือกหอย ,สาหร่ายทะเล เป็นต้น

2.พืชจะได้รับสารอาหารตลอดเวลาในปริมาณอย่างเสม่ำเสมอ และในเวลานาน ทำให้ต้นไม้เติบโตได้อย่างเสม่ำเสมอตลอดเวลา   เพราะว่าปุ๋ยตัวนี้จะละลายปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาอย่างช้าๆ

3.พืชจะได้รับธาตุอาหารอย่างทั่วถึง เพราะสภาพปุ๋ยที่เป็นผง ทำให้เกิดการกระจายตัวของผงปุ๋ยไปได้อย่างทั่วถึงในทุกตำแหน่งของรากพืช และลักษณะเป็นผงแห้งทำให้ใช้ได้ง่ายโรยได้อย่างทั่วถึง 

4.ทุกคนไม่ปฎิเสธการนำไปใช้ เพราะว่าไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนน้ำหมักทั่วไป ทำให้ใช้ได้ง่ายใช้กันได้ทุกคน,เก็บไว้ก็ง่าย
5.วัสดุปลูก,ดินปลูกจะไม่แข็งแน่นเมื่อใช้ไปนานๆ ดินจะอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ รากพืชจะสามารถดูดธาตุอาหารไปใช้ได้อย่างสมบูรณ์และยาวนาน เพราะว่า ปุ๋ยตัวนี้เป็นปุ๋ยอินทรีย์และมีจุลินทรีย์ที่ใช้ในการย่อยสลายอยู่หลายตัว 

6.พืชจะแข็งแรงไม่อ่อนแอต่อโรคและแมลงรวมทั้งมีความสามารถในการเติบโตได้ดีมาก เพราะว่า ปุ๋ยตัวนี้มีสารชีวภัณฑ์ที่ช่วยป้องกัน กำจัด โรคพืชและแมลงอยู่ในตัว เช่นเชื้อไตรโคเดอร์ม่า,เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส เป็นต้น รวมทั้งเชื้อจุลินทรีย์ ที่จะข่วยปรับสภาวะดินปลูกให้เป็นระบบอินทรีย์ตามธรรมชาติทำให้ต้นไม้แข็งแกร่งทนทานต่อโรคและแมลง

●วิธีการนำไปใช้●

ใช้ได้ง่ายมาก เพียง
1.นำไปโรยที่บริเวณรากของต้นไม้อย่างทั่วถึง ทำการคลุกกับผิวดินแล้วรดน้ำตามทันที 
2.นำไปฝั่งเป็นจุดๆในระดับความลึกที่ไกล้ๆกับรากฝอยของต้นไม้
3.แช่น้ำไว้สัก5 วันแล้วนำเอาน้ำที่ได้ไปรดต้นไม้ หรือกรองแล้วนำไปพ่นได้



■ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลิบเหล่านี้■
●ปริมาณในการใช้●

การใช้นั้นไม่มีปริมาณกำหนดที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช,สถานที่ปลูก,อายุของพืช จากการเก็บข้อมูลจากการวิจัยพบว่า 

1.ใน 1 ซอง สามารถใช้กับพืชผักหรือพืชอายุสั้นได้ประมาณ 60-80 ต้นใน1รอบของพืชผัก(45วัน)ใส่ 2ครั้งคือ ใส่ครั้งแรกเมื่อพืชอายุได้ 15 วัน (นับจากเพาะเมล็ด)และครั้งที่ 2 เมื่อพืชอายุ 30 วัน
2.อีก 1 แปลงทดลองทำการแบ่งใส่ 10 วันครั้ง ไม่นับอายุก่อนลงแปลงปลูก)ทั้งหมด 3 ครั้ง(หมดซอง) พบว่าการเจริญเติบโตได้ดีมากพืชจะค่อยๆโตอย่างเสม่ำเสมอ
3.อีก 1 แปลงทดลองทำการใส่ครั้งแรก ในจำนวนมากกับผักที่มีอายุ35วันหรือในช่วงกำลังเติบโตเต็มที่(เพื่อทดสอบผลกระทบต่อผัก)พบว่าพืชไม่ได้ผลกระทบใดๆ แสดงว่าใส่ในปริมาณมากก็สามารถใส่ได้ ทั้งนี้สามารถเข้าใจได้ว่า ปุ๋ยตัวนี้ค่อยๆละลายปลดปล่อยปุ๋ยออกมา มันจึงไม่มีความเข้มข้นสูงในการใส่ในปริมาณมากๆ

สรุปถึงปริมาณการใช้ 
สรุปได้ว่า
1. จะสามารถใส่ได้ในปริมาณเท่าใดก็ได้ ทั้งนี้ควรจะพิจารณาถึง ชนิด,อายุ,ช่วงอายุ ของต้นพืชตามความเหมาะสม
2.ปุ๋ยที่ใส่ลงไปในดินถ้าพืชใช้ไม่หมดก็จะยังตกค้างอยู่ให้พืชที่ปลูกในชุดต่อไปนำไปใช้ได้อย่างต่อเนื่อง 
3.ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ในกระถาง ที่ทรุดโทรมมาก แนะนำให้เจาะหลุมลึกและฝังปุ๋ยตัวนี้ลงไป เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของดิน

>>>แนะนำให้ใส่น้อยแต่บ่อยครั้งจะดีมากกว่าใส่มากๆแล้วใส่น้อยครั้ง<<<



ข้อแนะนำในการเลือกใช้ สูตรปุ๋ย,ชนิดของปุ๋ยในต้นไม้แต่ละประเภท
1.พืชผักทุกชนิด,พืชผักกินใบอายุสั้น,ไม้ในกระถาง,ไม้ดอกไม้ประดับ >>>แนะนำให้ใช้
>>>ผงปุ๋ยน้ำหมักอินทรีย์เพียวๆสูตร 1(สูตรเจริญเติบโต)รหัส.....ตลอดอายุของการเติบโต
.......
2.เมล่อน,แตงโมฟัก,แฟง,น้ำเต้าหรือพืชกินผลที่มีอายุสั้น
>>> แนะนำใช้>>>หัวเชื้อปุ๋ยน้ำหมักอินทรีย์เคมี 2 สูตรใน 2 ช่วงและช่วงสุดท้ายให้ใช้ชนิดอินทรีย์เพียวๆ
๒.๑.ช่วงที่1ช่วงเจริญเติบโต ใช้ ปุ๋ยน้ำหมักอินทรีย์เคมีสูตร1สูตรเจริญเติบโต
๒.๒.ช่วงที่2 ติดดอกและเลี้ยงผล ใช้ ปุ๋ยน้ำหมักอินทรีย์เคมีสูตร 3 (สูตรเลี้ยงดอกบำรุงผล)
๒.๓.ช่วงที่ 3 ช่วง ขยายผลทำหวานก่อนการเก็บเกี่ยว  ใช้ ปุ๋ยน้ำหมักอินทรีย์เพียวๆสูตร 4 สูตรขยายผลและเพิ่มหวาน
.......
3.องุ่นและไม้ผลอื่นๆหรือพืชกินผลที่มีอายุยืนยาว แยกตามรูปแบบการปลูกดังนี้
๓.๑. ปลูกในภาชนะต่างๆเช่นกระถาง,บล๊อก,วงบ่อ,เข่งและปลูกลงดินในกรณีที่ไม่มีปุ๋ยอินทรีย์เสริม
>>>แนะนำให้ใช้ตามช่วงของการเติบโตดังนี้>>
*ช่วงที่1ช่วงเจริญเติบโต
>>> แนะนำใช้>>> ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์เคมีสูตร1(สูตรเจริญเติบโต)
*ช่วงที่ 2 ช่วงสะสมอาหาร >>>แนะนำใช้ >>>ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์เคมีสูตร 2(สูตรสะสมอาหาร)
*ช่วงที่ 3 ช่วงเลี้ยงดอก,บำรุงผล
>>>แนะนำใช้>>> ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์เคมีสูตร3 ( สูตรเลี้ยงดอกบำรุงผล)
*ช่วงที่ 4 ช่วงขยายผล,เพิ่มหวา
>>>แนะนำใช้>>> ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์เพียวๆสูตร4 ( สูตรขยายผล,เพิ่มหวาน)

๓.๒. ปลูกลงดินในกรณีที่มีปุ๋ยอินทรีย์เสริม 
 >>>แนะนำให้ใช้ตามช่วงของการเติบโตดังนี้>>
*ช่วงที่1ช่วงเจริญเติบโต>>> แนะนำใช้
>>> ปุ๋ยหัวเชื้อเคมีสูตร1(สูตรเจริญเติบโต)
*ช่วงที่2ช่วงสะสมอาหาร >>>ใช้ ปุ๋ยหัวเชื้อเคมีสูตร 2(สูตรสะสมอาหาร)
*ช่วงที่ 3 ช่วงเลี้ยงดอก,บำรุงผล
>>>แนะนำใช้>>> ปุ๋ยหัวเชื้อเคมีสูตร3 ( สูตรเลี้ยงดอกบำรุงผล)
*ช่วงที่ 4 ช่วงขยายผล,เพิ่มหวาน
>>>แนะนำใช้>>> ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์เพียวๆ สูตร4 ( สูตรขยายผล,เพิ่มหวาน)
 ••••••••••••••

มีความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ตัวนี้กับน้ำหมักชีวภาพและวัตถุอินทรีย์ที่มีวางขายในท้องตลาดอย่างมาก

น้ำหมักที่มีอยู่ในท้องตลาดจะอยู่วางขายกันในรูปแบบของ"น้ำหมัก"และเป็นผลิตภัณฑ์ที่แยกกันเฉพาะแต่ละวัสดุเท่านั้น  เช่น 
●น้ำหมักมูลวัว
●น้ำหมักปลาทะล
●น้ำหมักมูลใส้เดือน
●น้ำหมักเศษอาหาร
●น้ำหมักมูลไก่
● กรดอมิโน
●สาหร่ายทะเล
●ฮิวมัส,ฟลูเวท
●ขี้เถ้า
น้ำหมักหรือวัสดุอินทรีย์เหล่านี้จะมีวางขายในรูปแบบต่างๆซึ่งเราจะต้องซื้อมาใช้ทีละอย่างๆ ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง บางอย่างก็ใช้เพียงนิดเดียวแต่ต้องซื้อมาเป็นแพ็กเป็นกิโลหรือเป็นลิตร

แต่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ได้รวบรวมเอาทุกอย่างข้างต้นและตัวอื่นๆอีกรวมแล้วมากกว่า 50 ชนิด เอาไว้ในที่เดียวกัน ในอัตราและสภาพที่ลงตัว,เหมาะสม

>>>แล้วทำให้อยู่ในสภาพที่แห้ง เมื่ออยู่ในสภาพแห้ง(กระบวนการทางอินทรีย์หยุดนิ่ง)เราจึงสามารถใส่ สิ่งที่พืชต้องการตัวอื่นๆเพิ่มเข้าไปได้อีกมากมาย เช่น
●จุลินทรีย์ชนิดต่างๆ
●เชื้อชีวภัณฑ์ป้องกันเชื้อโรคและแมลง
●กรดอมิโน,เอนไซด์,วิตามิน 
 
เรียกว่ามีให้ครบถ้วน ในหัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์ตัวนี้ 
นี่คือข้อแตกต่างและคุณสมบัติที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ตัวนี้

ฉะนั้น การนำไปใช้จึงใช้ได้ง่าย  ใช้เพียงตัวนี้ตัวเดียวก็เพียงพอให้ต้นไม้เติบโตได้อย่างสมบูรณ์แล้ว โรค,แมลงก็จะไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นน้อยลง

ข้อมูลทางวิชาการ

รายละเอียดคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
จากคุณสมบัติข้างต้นทั้งหมดทำให้ ได้ "ระบบอินทรีย์"ให้กับต้นพืช ซึ่งหมายถึงการทำงานของจุลินทรีย์จะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์และสมดุลในดินปลูกที่ต้นพืชกำลังใช้เป็นที่เจริญเติบโต โดยเฉพาะ ต้นไม้ที่ปลูกในกระถาง


●จุลินทรีย์ที่เราใส่ไว้ในผลืตภัณฑ์
จุลินทรีย์กลุ่มที่ ๑ ประเภทย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในสภาพแห้ง(ประเภทใช้ทำปุ๋ยหมัก)
.......
จุลินทรีย์กลุ่มที่ ๒ ประเภทย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในสภาพเปืยกหรือแช่น้ำ(ประเภทใข้ทำน้ำหมัก)
.......
จุลินทรีย์กลุ่มที่ ๓ เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืชในดิน โดยมีความสามารถป้องกันหรือยับยั้งการเจริญของเชื้อโรคพืชที่ทำให้เกิดอาการรากหรือโคนเน่า ได้แก่ เชื้อไตรโคเดอร์ม่า (Trichoderma sp.) และ บาซิลลัส (Bacillus sp.)
........
จุลินทรีย์กลุ่มที่ ๔ เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ประเภทเพิ่มธาตุอาหารให้กับพืชได้โดยตรง คือ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 
ที่มีคุณสมบัติ เซลล์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจะประกอบด้วยโปรตีนประมาณร้อยละ 60 ซึ่งโปรตีนเหล่านี้ประกอบด้วย กรดอะมิโนที่จําเป็นครบถ้วน และยังมีวิตามินและแร่ธาตุ เช่น B1 B2 B6 B12 กรดโฟลิค วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี วัตถุสีแดง และสารโคแฟคเตอร์ เช่น ยูบิควิโนน โคเอนไซม์คิวเท็น ไซโตไคนิน ซีเอติน ออกซิน กรดอินทรีย์

●มีส่วนผสมจากวัสดุอินทรีย์ที่มาจากประเภท หิน,ดิน,ทราย


...ทั้งหมดนี้ น้ำหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์โดยทั่วไป"ไม่มีหรือมีไม่ครบถ้วน" แต่ปุ๋ย หัวเชื้อน้ำหมักอินทรีย์รวม ชนิดนี้ "มี" อย่างครบถ้วน จึงใข้เพียงตัวนี้ก็เพียงพอแล้ว

          >>>>>>>><<<<<<<<

●สถานที่ติดต่อกับเรา●

ท่านที่สนใจ ติดต่อ>>ขอข้อมูลเพิ่มเติม>>ขอคำปรึกษาติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี่ได้เลย
๑.ไลน์: @530bvjkk
๒.ลิ้งไลน์ร้านค้า: https://lin.ee/B5D0opl
๓.เว็บไซด์ http://ambegrapefarm9.lnwshop.com/landing
๔.โทรศัพย์
1.ติดต่อเรื่องการสั่งซื้อและกระบวนการขนส่งที่เบอร์โทร:  082 987 6554
2.ติดต่อขอคำปรึกษาที่เบอร์โทร : 092 124  8491

          >>>>>>>><<<<<<<


●สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆของ Amber grape farm ได้ที่ลิ้งด้านล่าง

1.สั่งซื้อต้นพันธุ์องุ่น

>>>>>"คลิกที่นี่"<<<<<


2.สั่งซื้อ ปุ๋ย,สารอาหารสำหรับองุ่น

>>>>>"คลิกที่นี่"<<<<<


3.สั่งซื้อ ฮอร์โมนและสารเพิ่มประสิทธิภาพการเติบโต

>>>>>"คลิกที่นี่"<<<<<


4.สั่งซื้อต้น มัลเบอร์รี่

>>>>>"คลิกที่นี่"<<<<<


4.สั่งซื้อ ยาป้องกันกำจัดโรคองุ่น

(ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย)

5.สั่งซื้อ ยาป้องกันกำจัดแมลงเข้าทำลายองุ่น(แบบชีวภะณฑ์

(ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย)

6. สั่งซื้อวัสดุปลูก,ระบบปลูกองุ่นแบบออโต้

(ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย)

7.ระบบปลูกผักแบบออโต้

(ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย)

8.พลาสติกมุงหลังคา

(ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย)

9.มุ้งกันแมลง

(ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย)

>>>>>>>><<<<<<<<

สารบัญเนื้อหาข้อมูลการปลูกองุ่น

1.ข้อมูล,ความรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์องุ่น

     

2.ข้อมูล,ความรู้วิธีการปลูกและเลี้ยงดูต้นองุ่นแบบปลูกในที่จำกัด(ปลูกแบบนอกตำรา)



3.ต้นพันธุ์,ข้อแนะนำเลือกซื้อต้นพันธุ์และชนิดสายพันธุ์ไปปลูก,วิธีขยายพันธุ์  

         >>>>>>>>"คลิกที่นี่<<<<<<<

4..ถาม~ตอบ สารพันปัญหาในการเลี้ยงองุ่นในแต่ละขั้นตอน

.>>>>>"คลิกที่นี่"<<<


5.ปุ๋ยอินทรีย์,ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สำหรับเลี้ยงต้นองุ่น(ข้อมูล,ความรู้,ผลิตภัณฑ์)


>>>>>คลิกที่นี่<<<<<


6. ฮอโมนพืช ในการเลี้ยงดูต้นองุ่น(ความรู้"ข้อมูลและผลิตภัณฑ์)


>>>>>คลิกที่นี่<<<<<



7. การป้องกันกำจัดโรค,แมลง ในตันองุ่น(ความรู้ ข้อมูล,ผลิตภัณฑ์)


>>>>>คลิกที่นี่<<<<<


8.วัสดุ,อุปกรณ์,ในการปลูกองุ่น (สั่งซื้ออุปกรณ์โรงเรือนเช่นพลาสติกมุงหลังคา,มุ้งกันแมลงและระบบปลูกแบบ Semi hydro organicได้ที่นี้)



9.พรรณไม้และผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆในฟาร์ม( มีวางจำหน่าย)


10.วิเคราะห์ เจาะลึก ผลงานการทดลอง,วิจัยของ Amber grape farm


11.พูดคุยและติดต่อเรา



ความคิดเห็น

เรื่องที่มีการดูมากที่สุด

$3.ค้นหากิ่งพันธ์ที่พร้อมจำหน่าย

☆1.สายพันธุ์องุ่น(ข้อมูล,ข่าวสาร,ลักษณะพันธุ์)

□5.1.ปุ๋ยหัวเชื้อน้ำหมัก "อินทรีย์รวม" ในรูปแบบ"ผง" (ปลดปล่อยช้า)

ค้นหาสายพันธุ์ที่ติดลูกง่าย(แตกช่อโดยไม่ต้องพรุน)

⭐☆Lily of the valley(ลิลลี่ออฟเดอะวัลเล่ย์)

♡กิ่งพันธุ์Atos (อ้าโต้ส)หลังงานวิจัย

□5.ปุ๋ย,ธาตุอาหารในการเลี้ยงดูตันองุ่น(ความรู้,ข้อมูล,ผลิตภัณฑ์)

$กิ่งพันธุ์Lily of the valley (ลิลลี่ออฟเดอะวัลเล่ย์)ชนิด ขนาด ราคา กิ่งพันธุ์ที่วางจำหน่าย

⭐☆Oscar (ออสก้า)⭐รออัปเดตข้อมูล

$3.2.1."ต้นพันธุ์ "องุ่น1 สายพันธ์ ต่อ 1 ต้น